• Home
  • /
  • งานแต่ง
  • /
  • ก่อนเลือกช่างภาพงานแต่ง คู่บ่าวสาวต้องเรียนรู้ข้อมูล

ก่อนเลือกช่างภาพงานแต่ง คู่บ่าวสาวต้องเรียนรู้ข้อมูล

การเลือกจองคิวช่างภาพที่ถูกใจนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากผลงานที่ บ่าว สาว ชื่นชอบ อย่าพยายามเลือกช่างภาพเพราะชื่อเสียงหรือเพราะใครๆแนะนำ เพราะชื่อเสียงนั้นสามารถเมคขึ้นมาได้ rabayseangstudio จะทำให้ บ่าว สาว นอกจากจะไม่ได้ภาพสวยแล้วอาจจะจ่ายเงินในราคาแพงเกินไปอีกด้วย  แต่ถ้าถ้าเพื่อนๆของคุณแนะนำมาอาจจะเป็นสไตล์รูปที่ไม่เข้ากับคุณก็อาจจะทำให้เสียความรูสึกได้  การเลือกช่างภาพงานแต่งจะต้องเลือกให้ดี และคู่บ่าวสาวจะต้องจองคิวเพื่อบอกช่างภาพให้ทราบกำหนดเวลาต่างๆ และยังทำให้ทราบว่าช่างภาพที่จะจ้างนั้นว่างหรือไม่ แต่ก่อนที่คู่บ่าวสาวจะมีการว่าจ้างช่างภาพงานแต่ง ควรจะต้องรู้อะไรไว้บ้าง จะได้เตรียมการไว้ก่อนเริ่มงานหรือหลังจบงาน

1.หน้าที่ของช่างภาพหลัก งานแต่งงานส่วนใหญ่ที่เห็นมักจะใช้ช่างภาพหลักเพียงแค่คนเดียว แล้วก็มีช่างวีดีโอ แต่หากเป็นการจัดงานแต่งงานที่ใหญ่และมีจำนวนแขกที่ค่อนข้างมาก จะต้องเลือกช่างภาพสัก 2 คนขึ้นไป เพื่อให้เหมาะสมกับงานที่จัด ซึ่งช่างภาพหลักจะทำหน้าที่บริหารจัดการทีมงาน มีการจัดแสงหรือจัดรูปแบบการถ่ายภาพทั้งหมด และบริหารเวลาให้เหมาะสมกับจำนวนแขก และพิธีการ  ซึ่งช่างภาพหลักจะคอยอยู่ใกล้ชิดติดตามบ่าวสาวตลอดเวลา และจะต้องจัดภาพความบลานซ์ สำหรับถ่ายภาพหมู่ให้แขกๆ และญาติๆ การกดชัตเตอร์ทุกครั้งต้องสวยทุกรูป ซึ่งช่วงพิธีการต้องแม่นและเร็ว ส่วนรูปที่ได้จากช่างภาพหลักส่วนใหญ่เป็นรูปถ่ายแบบตรงๆ

2.จำเป็นแค่ไหนจะต้องจ้างช่างภาพแคนดิต คู่กับช่างภาพหลัก ?? ช่างภาพแคนดิตส่วนใหญ่จะมีสไตล์เฉพาะตัว เพราะเป็นช่างภาพที่อาจจะไม่มีโอกาสจัดความเป็นระเบียบให้กับแขกที่มางาน หรือแม้คู่บ่าวสาว เพราะช่างภาพแคนดิตจะเน้นการจับจังหวะอารมณ์บ่าวสาว เพื่อนๆ ญาติผู้ใหญ่ บรรยากาศต่างๆ และเก็บรายละเอียดในภาพรวมของงานทั้งหมด พร้อมทั้ง หามุมมองแปลกๆ ใหม่ๆ  ทำให้ภาพที่ได้ออกมา เป็นการเน้นอารมณ์มากกว่าภาพของช่างภาพหลัก ซึ่งบางภาพอาจจะไม่คมชัด แต่กลับดูมีมิติ ทันสมัยสวยงาม ช่างภาพแคคดิตจะเก็บทุกรายละเอียดไม่ว่าแขกจะเยอะหรือน้อย เพราะช่างภาพแคนดิตจะทำหน้าที่เก็บอารมณ์ของงาน และมุมเก๋ๆ  หรือความยิ่งใหญ่อลังการ มุมธรรมชาติในแบบทีเผลอของบ่าวสาว  หลากหลายอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในงาน

3.การถ่ายภาพในงานแต่งตามสไตล์ช่างภาพ ช่างภาพงานแต่งส่วนใหญ่จะใช้เลนส์ซูม F2.8  เลนส์ฟิกส์ F1.4  และเลนส์ F1.2  ให้ครบทุกช่วงที่สำคัญๆ พร้อมรับมือกับทุกสภาพแสง ซึ่งการเตรียมอุปกรณ์ในการถ่ายภาพของช่างภาพนั้นสำคัญไม่แพ้ประสบการณ์ช่างภาพงานแต่งเลย หากกล้องที่มีเทคโนโลยีสูงๆความสมารถต่างๆของกล้องก็จะมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งการถ่ายภาพในแต่ละงานจำนวนภาพจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพิธีการ และทุกภาพจะมีการปรับสีแสงตกแต่งภาพโดย การโพรเซสภาพตามความเหมาะสม

4.การจองคิวล่วงหน้าสำคัญแค่ไหน?? ช่างภาพงานแต่ง จะสามารถรับงานได้แค่เพียงวันละหนึ่งคู่เท่านั้น อย่างพิธีการในตอนเช้า และงานเลี้ยงฉลองในช่วงเที่ยงหรือตอนเย็น  ยิ่งคุณมีช่างภาพงานแต่งงานที่ติดตามผลงานเค้ามานาน หรือเคยร่วมงานกันมาก่อนแล้วติดใจ ผมแนะนำให้รีบตกลงจองคิวงานกับทีมช่างภาพงานแต่งงานที่คุณชอบด่วนที่สุด!! พร้อมกับทำเรื่องการจ่ายเงินค่ามัดจำทันที  เพราะหากคุณมัวแต่ตัดสินใจนานจนคนอื่นมัดจำไปก่อน  ก็จะทำให้พลาดช่างภาพงานแต่งคนนั้นไปอย่างน่าเสียดาย  ซึ่งจะทำให้คู่รักอดได้ภาพสวยๆ   โดยเฉพาะวันฤกษ์ดีๆ ที่นิยมแต่งงานกันที่แม้จะมีไม่กี่วัน อาจจะทำให้ช่างภาพงานแต่งงานเก่งๆ มักจะถูกจับจองตัวเร็วมากๆ การจองช่างภกันข้ามปีจึงกลายเป็นเรื่องปกติ หากต้องการจองคิวงานก็ให้คุยกับช่างภาพที่คุณจะจ้างก่อน ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างต่างกันไป แต่หลักสำคัญคือ การมัดจำไว้ก่อน เพราะการพูดคุยไม่ใช่การจองคิวนั่นเอง

กลับหน้าหลัก

Leave a Reply